สารจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ เนื่่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2563

สารจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ เนื่่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 4 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,359 view

สวัสดีครับพี่น้องชุมชนชาวไทยในกัมพูชาทุกท่าน

วันที่ 5 ธันวาคม เวียนมาบรรจบอีกครั้งแล้วนะครับ หากสถานการณ์ปกติดังเช่นที่ผ่าน ๆ มา พวกเราคงได้พบกัน ณ ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพบปะสังสรรค์ร่วมกันเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

ตลอด 70 ปี แห่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทรงครองแผ่นดินโดยธรรมและทรงเป็นดุจแสงประทีปนำทางให้แก่พสกนิกรบนผืนแผ่นดินไทยก้าวผ่านสถานการณ์ที่ผกผันแปรเปลี่ยนทั้งในและนอกประเทศ ทั้งยังทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาที่ทรงให้ความสำคัญกับประชาชน ทรงแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และมีพระราชกรณียกิจเป็นที่ประจักษ์ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยองค์การสหประชาชาติได้ประกาศรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ เป็นวันดินโลก

นอกจากวันที่ 5 ธันวาคมจะเป็นวันที่สำคัญต่อจิตใจประชาชนชาวไทยแล้ว ปีนี้เป็นปีพิเศษสำหรับความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชาด้วย นั่นก็คือโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - กัมพูชา

70 ปีที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาในขณะนั้นได้มีหนังสือมายังนายวรการบัญชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย เพื่อแสดงความจำนงที่จะให้กัมพูชากับไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน ซึ่งไทยได้ตกลงรับข้อเสนอของกัมพูชาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2493 (ค.ศ. 1950) และได้แต่งตั้งให้นายประสิทธิ์ นรินทรางกูร เป็นอุปทูตไทยประจำกัมพูชา (พำนักอยู่ที่เมืองไซ่ง่อนหรือนครโฮจิมินห์ในปัจจุบัน) ไทยจึงถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย และประเทศแรก ๆ ในโลกที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา

ตลอดระยะเวลา 7 ทศวรรษที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชาได้ร่วมมือกันในทุกระดับ ทั้งการพัฒนาพื้นที่ชายแดนที่ยาวกว่า 800 กิโลเมตร พัฒนาการค้าขายร่วมกันโดยมูลค่าทางการค้าใน 3 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนในปีนี้ แม้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นอุปสรรค แต่ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมาก็มีมูลค่าทางการค้ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนสะสมของนักธุรกิจไทยในกัมพูชาอีกกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังได้ช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างสินค้าที่ผลิตในกัมพูชา ในขณะเดียวกัน แรงงานกัมพูชาในไทยก็มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย

พร้อม ๆ กับที่ปี 2563 (ค.ศ. 2020) เป็นปีสำคัญในความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - กัมพูชา แต่ก็เป็นปีแห่งความท้าทายของแต่ละประเทศด้วย การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชายังประสบอุทกภัยอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย

ในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้แสดงความร่วมมือร่วมใจเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันโดยรัฐบาลไทยและชุมชนไทยในกัมพูชาได้ร่วมกันมอบความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และจากอุทกภัย นอกจากนี้ ไทยยังได้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยจากกัมพูชาที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปรักษาตัวในไทยสามารถเดินทางไปรักษาอาการป่วยได้

ในขณะเดียวกัน ในช่วงที่การเดินทางระหว่างไทย - กัมพูชายังไม่เป็นปกติ รัฐบาลกัมพูชาได้อนุญาตให้คนไทยที่ติดอยู่ในกัมพูชาสามารถอาศัยในกัมพูชาต่อไปได้อีกระยะหนึ่งและอำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย รวมถึงนักธุรกิจที่ประสงค์จะเดินทางกลับเข้ามายังกัมพูชาโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขกัมพูชาอย่างเคร่งครัด

ผมเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ปีนี้เราไม่มีโอกาสได้พบปะสังสรรค์กันอย่างในปีที่ผ่าน ๆ มา อย่างไรก็ดี ผมเห็นว่าตอนนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของส่วนรวมและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างเต็มที่ด้วยการรักษาระยะห่างระหว่างกัน พบปะเท่าที่จำเป็น อุดหนุนผู้ประกอบการต่าง ๆ โดยไม่ลืมการรักษาสุขอนามัยที่ดี ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ หากพวกเราช่วยกันคนละเล็กละน้อย ทางการกัมพูชาก็จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ง่ายขึ้น และการดำเนินชีวิตของเราก็จะกลับมาปกติ (แบบใหม่) ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ปีหน้าเราจะเข้าสู่ทศวรรษที่แปดของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา รัฐบาลไทยและกัมพูชายังคงทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและผมก็หวังว่าพวกเราคนไทยทุกคนคงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะรักษาและส่งเสริมสายสัมพันธ์นี้ให้ยืนยาวและนำมาซึ่งมิตรภาพที่ยั่งยืนต่อไปด้วย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองประเทศ

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงครับ

สวัสดีครับ

นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์
เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ

ภาพประกอบจากวันที่ 5 ธ.ค. 2562

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ